วิธีการเลือกแอร์

วิธีเลือกแอร์

วิธีการเลือกซื้อแอร์ ฉบับมือใหม่

เลือกแอร์อย่างไรให้คุ้มค่า ประหยัดไฟ เป็นคำถามที่พบบ่อยสำหรับที่กำลังเลือกซื้อแอร์ใหม่ แอร์ยี่ห้อดังๆ ที่มีชื่อเสียงยาวนาน และเลือกตัวแทนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศที่น่าเชื่อถือก็สามารถทำให้เรามั่นใจได้ระดับหนึ่ง ทั้งนี้แอร์ทุกยี่ห้อทุกรุ่นก็มีข้อดี มีจุดเด่น และประสิทธิภาพที่ต่างกันไป จึงควรพิจารณาหลายๆ ด้านก่อนตัดสินใจ เราจึงขอแนพนำแนวทางในการเลือกซื้อแอร์ให้ตรงกับความต้องการใช้งาน ให้คุ้มค่า และประหยัดไฟมากที่สุด

เลือกประเภทของเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม

เครื่องปรับอากาศสำหรับการใช้งานโดยทั่วไป สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท คือ

  1. เครื่องปรับอากาศสำหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศแบบติดผนังขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานตามบ้านเรือน หรือใช้ติดตั้งในห้องขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง เพราะจะดูแลรักษาง่าย หรือเครื่องปรับอากาศแบบตั้งพื้น ที่สามารถนำเครื่องปรับอากาศไปวางในพื้นที่หลากหลาย สามารถทำความเย็นได้รวดเร็ว
  2. เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่ สามารถแบ่งย่อยได้อีกหลายรูปแบบ เช่น แบบฝังฝ้า ซึ่งติดตั้งอยู่บนตัวฝ้าของเพดาน มีการปล่อยความเย็นออกมาจากตัวแอร์ 4 ทิศทาง เป็นต้น เหมาะสำหรับใช้กับสำนักงาน ร้านค้า ร้านอาหาร หรือภายในอาคารที่มีพื้นที่กว้างขวาง

ห้องใหญ่แค่ไหน กี่ตารางเมตร? ใช้ขนาดกี่BTU?

ยกตัวอย่าง เช่น จะติดแอร์ที่ห้องนอน และประเภทแอร์ก็มีให้เลือกเยอะ สิ่งที่ต้องนำมาตัดสินใจคือ ขนาดของห้อง หากขนาดห้องของคุณมีขนาดเล็ก รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือผืนผ้า ใช้ประมาณ 9,000 - 18,000 BTU แอร์ประเภทติดผนังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย หากห้องที่มีขนาดใหญ่ และเป็นทางยาว ใช้ประมาณ 24,000 - 40,000 BTU การใช้แอร์ประเภทตั้งแขวน หรือแอร์เปลือยจะเหมาะสมกว่า เพราะส่งลมดีใช้งานทนทาน หรือหากขนาดห้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ ก็แนะนำให้ใช้แอร์สี่ทิศทาง เพราะกระจายลมได้ 4 ทิศทาง

จำนวนของ BTU ที่ควรเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดห้องของห้อง (ความกว้าง x ยาว) และตัวแปรต่าง เช่น ห้องโดนแดด หรือไม่โดนแดด ความสูงของเพดานห้อง จำนวนคนในห้อง เป็นต้น การเลือกแอร์ที่มี BTU ต่ำไป จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักตลอดเวลาเพื่อคงอุณหภูมิใหเได้ตามที่ตั้งไว้ จึงเป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน และทำให้เครื่องเสียเร็ว ส่วนการเลือกแอร์ที่มี BTU สูงไปก็ทำให้สิ้นเปลือง่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ เพราะยิ่ง BTU สูง เครื่องก็ยิ่งมีราคาแพงและกินไฟมาก

BTU คืออะไร

BUT ย่อมาจาก British Thermal Unit คือ ขนาดความสามารถการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดย 1 ตันความเย็น = 12,000BTU

สูตรคำนวณหาค่า BTU

BTU = ความกว้าง (เมตร) x ความยาว (เมตร) x ตัวแปร

ค่าตัวแปร

  • 700 - 800  : สำหรับห้องนอน หรือห้องที่มีความร้อนน้อย (ห้องที่ไม่โดนแดด หรือโดนเล็กน้อย ฝ้าต่ำ หรือห้องที่ใช้แอร์ช่วงกลางคืน)
  • 800 - 900 : สำหรับห้องรับแขก หรือห้องที่มีความร้อนปานกลาง - มาก (ห้องที่โดนแดด อยู่ทิศตะวันตก หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)
  • 900 - 1000 : สำหรับห้องออกกำลังกาย ห้องทำงาน หรือห้องที่มีความร้อนมาก หรือฝ้าสูง (ห้องที่โดดแดด อยู่ทิศตะวันตก อยู่ชั้นบนสุด หรือใช้แอร์ช่วงกลางวัน)
  • 1000 - 1200 : สำหรับร้านอาหาร ร้านอาหารที่เปิด - ปิดประตูบ่อย ร้านทำผม หรือสำนักงานที่มีคนอยู่จำนวนมาก

**หากฝ้าเพดานสูงกว่า 2.5 เมตร มีจำนวนคนในห้องมากกว่า 3 คน หรือมีความพิวเตอร์ ควรบวกค่า BTU เพิ่มขึ้นอีก5% จากค่าปกติ

ตัวอย่าง ห้องนอนมีขนาดกว้าง 3.5 เมตร ยาว 4.5 เมตร ต้องใช้แอร์ขนาดเท่าไร(ข้อมูลเพิ่มเติม ห้องอยู่ทางทิศตะวันตก มีเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี หลอดไฟฟ้า)

ใช้ค่าตัวแปร = 800

BTU = พื้นที่ห้อง x ค่าตัวแปร (ห้องนอน)

BTU = 3.5 x 4.5 x 800 = 12,600 BTU


ปัจจัยที่ควรพิจารณาเพิ่มเติม

  1. จำนวนและขนาดของหน้าต่าง
  2. ทิศที่แดดส่องถึงหรือทิศที่ตั้งของห้อง
  3. วัสดุหลังคามีฉนวนกันความร้อนหรือไม่
  4. จำนวนคนใช้งานในห้อง
  5. จำนวนและประเภทของเครื่องใช้ไฟฟ้าในห้อง

**ทำไมต้องเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศให้พอดี

เลือกขนาดแอร์ใหญ่เกินไป คอมเพรสเซอร์จะตัดบ่อยครั้ง สิ้นเปลืองพลังงาน ความชื้นในห้องสูง ไม่สบายตัว ราคาและค่าติดตั้งสูงขึ้น
เลือกแอร์เล็กเกินไป คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลา สิ้นเปลืองพลังงาน อายุการใช้งานสั้น ห้องไม่เย็น หรือเย็นช้า

ตาราง

ภาพประกอบตารางคำนาณบีทียู

 

ประเภทของเครื่องปรับอากาศ

แอร์แบบติดผนัง (Wall Type) มีฟังก์ชั่นการทำงานที่หลากหลาย ตัวเครื่องมีขนาดเล็กกระทัดรัดรูปลักษณ์ทันสมัย ประหยัดพลังงานและราคาไม่แพง ตอบโจทย์ต่อความต้องการในการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ บำรุงรักษาง่าย เป็นที่นิยมสำหรับการใช้ในครัวเรือน และการใช้ในห้องขนาดเล็ก

 

 

 

 

 

แอร์แขวนใต้ฝ้า - วางตั้งพื้น (Ceiling Type) เหมาะกับห้องขนาดเล็กถึงขนาดปานกลางที่มีคนอยู่หนาแน่น เช่น ร้านค้า ห้องอาหาร อาคารสำนักงาน ติดตั้งใต้ฝ้าเพดาน บางแบบสามารถติดตั้งแบบวางบนพื้นได้ สามารถกระจายลมเย็นได้ไกลและทั่วถึง ทนต่อการใช้งานหนัก แต่การทำงานของแอร์มีเสียงดังกว่าแบบติดผนัง

 

 

 

แอร์ฝังในฝ้า แบบ4 ทิศทาง (Cassette Type) ตัวเครื่องแอร์ ท่อน้ำยา และท่อน้ำทิ้ง สามารถติดตั้งภายในฝ้าเพดาน ทำให้สามารถรักษารูปทรงความสวยงามของห้องได้ดังเดิม ลดข้อจำกัดในการติดตั้ง เหมาะกับห้องที่ต้องรักษาความสวยงาม ที่ต้องการให้เห็นตัวเครื่องแอร์น้อยที่สุด ราคาเครื่องต่อบีทียูแพงกว่าประเภทอื่น

 

 

 

แอร์เปลือย / แอร์ต่อท่อดักส์ (Duct Type) เป็นแอร์ที่มีบีทียูตั้งแต่ 60,000-600,000 BTU หรือมากกว่านั้น ซึ่งมักจะนำไปติดตั้งในอาคารขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงาน ในพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง โดยสามารถต่อท่อลมออกเป็นปล่องเพื่อกระจายลมเย็นออกได้หลายจุด หลายห้อง

ky
แขวนใต้ฝ้า
4ทิศทาง
แอร์เปลือย