vrv

มาทำความรู้จักการทำงานระบบ VRV / VRF

VRV หรือ VRF ทำงานอย่างไร?

ระบบ VRV (Variable Refrigerant Volume) หรือ ระบบ VRF (Variable Refrigerant Flow) เป็นระบบเครื่องปรับอากาศที่ลักษณะการทำงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงปริมาณสารทำความเย็นตามภาระโหลดของการทำความเย็นและจำนวนตัวเครื่องภายในที่ทำการติดตั้ง เป็นระบบเครื่องปรับอากาศในเชิงพาณิชย์ที่เหมาะในลักษณะการติดตั้งที่จำกัดด้วยพื้นที่ติดตั้งคอยล์ร้อน (Outdoot unit) เนื่องจากคอยล์ 1 ตัว สามารถติดตั้งคอยล์เย็น (Indoor unit) ได้หลายตัวและหลายชั้น ซึ่งคอยล์เย็นจะแยกการทำงานโดยอิสระ จึงสามารถควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ

ประโยชน์การติดตั้งระบบ VRV หรือระบบ VRF

เจ้าของอาคาร : ควบคุมอุณหภูมิได้แม่นยำ และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบปรับอากาศอื่นๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผลประหยัดมากหรือน้อยจะขึ้นอยู่กับประเภทของอาคาร และพฤติกรรมการใช้งานด้วย

ผู้ใช้งาน : สามารถควบคุมอุณหภูมิให้เย็นสบายและแม่นยำ และนอกจากนั้นยังมีระบบปรับปรุงคุณภาพของอาคารให้ดีขึ้นได้ด้วยการระบายอากาศ ลดความชื้น และกระบวนการอื่นๆ

ผู้ติดตั้ง : ออกแบบเพิ่มความกะทัดรัดคล่องตัวต่อการเคลื่อนย้าย จึงสามารถติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ เช่น บนหลังคา โดยใช้พื้นที่น้องลง การติดตั้งง่าย ไม่ซับซ้อน ช่วยประหยัดเวลา

ทำความรู้จัก ระบบปรับอากาศ AHU VRV VRF

หากคุณคือผู้ที่กำลังมองหาระบบปรับอากาศแบบใหม่ ที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ช่วงนี้เริ่มเข้าใกล้ฤดูร้อนเข้ามาทุกที หรือจริงๆ แล้วประเทศไทยมีแต่ฤดูร้อน ผู้ประกอบการบางคนเพิ่งมำการขยายออฟฟิศ ขยายอาณาจักร และส่วนใหญ่ช่วงนี้ก็เห็นผู้คนทยอยเปิดพื้นที่ให้ ก็อยากจะติดตั้งแอร์ในปริมาณมากๆ หรือถึงขั้นวางแผนระบบต่างๆ ที่อยู่ในแอร์ เพื่อที่การติดตั้งจะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้ได้มากที่สุด วันนี้เราจึงมีความรู้ดีๆ มาเสนอเพื่อให้คุณได้ทำความรู้จัก ระบบปรับอากาศ AHU VRV VRF

AHU ทำงานอย่างไร

ยกตัวอย่างเป็นแบบดูดอากาศจากด้านนอกอาคาร (AHU)

เครื่องส่งลมเย็น (AHU) ใช้อากาศภายนอก จากนั้นทำให้อากาศบริสุทธิ์และหมุนเวียนเข้าไปในอาคาร การกำจัดอากาศระบายออก AHU ช่วยสร้างคุณภาพอากาศภายในอาคารที่ดีต่อสุขภาพ สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ หากต้องการอุณหภูมิสูงอากาศจะถูกทำให้ร้อนด้วยคอยล์ร้อน หรือหน่วยการนำความร้อนกลับคืน มิฉะนั้นอากาศจะถูกทำให้เย็นลงด้วยคอยล์เย็นเพื่อสร้างอุณหภูมิที่เป็นลม ขึ้นอยู่กับความต้องการ

AHU สามารถใช้ในการหนุมเวียนอากาศจากห้องอื่น ห้องผสมมีแดมเปอร์เพื่อควบคุมสัดส่วนระหว่างอากาศไหลกลับอากาศภายนอกและอากาศระบายออก AHU สามารถออกแบบให้ประหยัดพลังงานได้มากขึ้น โดยการปรับให้เหมาะสมกับการทำความร้อน หรือ แลกเปลี่ยนความเย็นภายใน นอกเหนือจากการประหยัดพลังงานมากขึ้น ก็จะส่งผลให้กำลังความสามารถที่สูงขึ้นเช่นกัน

VRV คืออะไร?

คือ ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่ชุดภายนอก สามารถเชื่อตต่อชุดภายในหรือแฟนคอยล์ได้สูงสุดถึง 64 เครื่อง ผสานเทคโนโลยี VRT (Variable Refrigeramt Temperature) ที่สามารถปรับ "อุณหภูมิของน้ำยา" ตามสภาวะอากาศ จึงช่วยให้คุณประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น

VAF คืออะไร?

คือ ปรับน้ำยาแปรผัน ซึ่งย่อมาจาก Variable Refrigerant Flow เป็นระบบปรับอากาศแบบแยกส่วน (Split Type) ชนิด Multi - Indoor - Unit ซึ่ง Condensing Unit 1 ชุด สามารถต่อเข้ากับ Fan Coil Unit ได้หลายชุดโดยใช้ Compressor ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีการปรับปริมาณสารทำความเย็น จะส่งผลให้ Compressor สามารถทำงานได้ตามสภาวะการใช้งานจริง

ระบบ VRV / VAF

1.ระบบปรับอากาศที่ Condensing Unit (คอยล์ร้อน ตัวที่มีคอมเพรสเซอร์อยู่ข้างใน) 1 ชุด สามารถเชื่อมต่อกับ Indoor Unit (คอยล์เย็น หรือ แฟนคอยล์) ได้มากกว่า 60 ชุด โดยขึ้นอยู่กับ ขนาดบีทียู ของคอยล์ร้อน

ยกตัวอย่าง เช่น condensing Unit หรือ คอยล์ร้อน ขนาด 240,000 บีทียู สามารถต่อกับ Indoor Unit  หรือ คอยล์เย็น ขนาด 42,000 บีทียู ได้ถึง 10 ชุด

2. Indoor Unit หรือ คอยล์เย็น สามารถควบคุมได้อย่างอิสระต่อกัน ถ้าเราใช้แอร์ระบบ VRV / VRF แล้วนั้น เราสามารถแยกการควบคุมแอร์ Indoor Unit หรือ คอยล์เย็น ได้อย่างอิสระ

ยกตัวอย่าง เช่น ออฟฟิศเรา ปกติโซนที่เรานั่งทำงานปกติ เพื่อความสบายเราจึงเปิดแอร์ให้เย็นขึ้นที่อุณหภูมิ 25 - 26 องศา แต่ขณะเดียวกัน ห้องประชุมที่อยู่ติดกับเรา มีการเทรนนิ่งพนักงานซึ่งมีคนเข้าไปอยู่ในห้องเป็นจำนวนมาก เราอาจปรับแอร์ให้เย็นขึ่นที่อุณหภูมิ 23 - 24 องศา เพื่อให้คนจำนวนมากรู้สึกเย็นสบายขึ้นได้

3. การเดินท่อน้ำยา สามารถทำได้ในระยะที่ไกล กว่าแอร์ระบบทั่วไปเป็นอย่างมาก จึงสามารถหาตำแหน่งวาง Condensing Unit หรือ คอยล์ร้อน ได้ง่าย และเข้ากับงานโครงสร้างของแต่ละอาคารได้เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่าง เช่น เราซื้อตึกมารีโนเวทเป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่ตึกเราถูกขนาบอยู่ตรงกลาง และด้านหลัง จึงมีความจำเป็นต้องเอาตัว Condensing Unit หรือ คอยล์ร้อน ไว้ข้างบน เช่น คอยล์เย็น ติดอยู่ชั้น1 แต่ต้องวาง คอยล์ร้อนอยูบนดาดฟ้าชั้น6 ซึ่งถ้าแอร์ระบบปกติ จะไม่สามารถเดินท่อได้ไกลขนาดนั้น แต่ระบบ VRV / VRF สามารถตอบโจทย์นี้ได้

 

*ข้อดีอีกอย่างก็คือ เราสามารถลดพื้นที่สำหรับวาง คอยล์ร้อน และยังทำให้อาคารมีความสวยงานมากขึ้นด้วย*

4. มีประเภท Indoor Unit ให้เลือกหลายประเภท ซึ่งทำให้ง่ายต่อการลือกให้เข้ากับงานออกแบบภายใน ไมาว่าจะเป็น แอร์ติดผนัง Wall Type แอร์แขวน Ceiling Suspended แอร์ฝังฝ้า Ceiling Cassette แอร์ตู้ตั้ง Floor Standing แอร์ต่อท่อลม Ceiling Concealed Duct ก็สามารถนำมา Mix And Match กันได้หมด

5. สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศจากส่วนกลาง ซึ่งเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้ได้สร้างความสะดวกสบาย และสามารถทำให้เจ้าของอาคาร สามารถควบคุมเครื่องปรับอากาศจากห้องควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าเวลา เปิด - ปิด ล่วงหน้า, ตั้งอุณหภูมิแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน, เลือกจะปิด หรือเปิดเครื่องปรับอากาศแต่ละโซน แต่ละห้อง, อนุญาต หรือ ไม่อนุญาตให้ทาง User หรือผู้ใช้งานปรับอุณหภูมิ เป็นต้น

ข้อคิดสำหรับการเลือกใช้ เครื่องปรับอากาศ ระบบธรรมดา หรือ ระบบ VRV / VRF

ความแตกต่าง / ข้อดี - ข้อเสีย ของแอร์ระบบธรรมดา หรือ Split Type Inverter (ย้ำว่า Inverter) กับระบบ VRV / VRF Inverter

1. เนื่องจากทั้ง 2 ระบบเป็น Inverter เหมือนกันดังนั้นเรื่องของการประหยัดไฟจะไ่มต่างกันมาก (แต่ถ้าเทียบกับ Split Type ธรรมดาจะต่างกัน ต้องขอชี้แจงอย่างละเอียด เพราะอาจเกิดการเข้าใจผิดเปรียบเทียบคนละระบบ)

2. ในแง่ของพื้นที่การติดตั้ง Condensing Unit หรือ คอยล์ร้อน

2.1 แอร์ระบบธรรมดา หรือ Split Type ต้องมีจำนวนคอยล์ร้อนมากกว่า คือ แอร์ 20 ตัว คอยล์ร้อนก็จะ 20 ตัวเหมือนกัน

2.2 แต่ระบบ VRV / VRF จะใช้คอยล์ร้อนแค่ 1 - 2 ตัว ต่อกับคอยล์เย็นได้จำนวนมากกว่า เช่น 20 ตัว

*แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นด้วย เช่น เรามีที่วางคอยล์ร้อนน้อยจริงๆ หรือไม่อยากให้เห็นคอยล์ร้อนเยอะ ซึ่งจะทำให้มีผลกับงาน Desing หรือทำให้รู้สึกรกตาก็เลือกใช้แอร์ระบบ VRV / VRF ก็จะเหมาะสมกว่า

**แต่ข้อเสียของระบบ VRV / VRF คือ ในกรณีที่คอยล์ร้อนมีปัญหา (ถึงแม้ว่ามีโอกาสยาก  แต่ถ้าในกรณีถ้ามีปัญหาจริง) VRV / VRF ที่ควบคุมแอร์หลายตัว ก็จะกระทบเยอะกว่า (เพราะถ้าแอร์ระบบธรรมดา หรือ Split Type มีปัญหา เราก็แค่ซ่อมตัวต่อตัวได้เลย)

3. ในแง่ของการซ่อมบำรุงแอร์ระบบธรรมดา หรือ Split Type ช่างทั่วไปซ่อมได้แต้ถ้าเป็น แอร์ระบบ VRV / VRF นั้นต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการมากกว่า

 

ระบบvrv-vrf

ที่มาของระบบปรับอากาศ VRV หรือ VRF

ซึ่งระบบปรับอากาศ VRV / VRF ถือกำเนิดเกิดขึ้น ในช่วงปี 1982 หรือ พ.ศ. 2525 ระบบปรับอากาศ VRV / VRF ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้เป็นระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์สายพันธ์ใหม่ คำว่า ระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์นั้นหมายถึงระบบปรับอากาศที่มีอุปกรณ์หลักๆ ที่ใช้ในการสร้างความเย็นอยู่ที่ส่วนกลางและกระจายความเย็นไปยังพื้นที่ต่างๆ ในอาคารอีกทีหนึ่ง และในสมัยก่อนระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ที่นิยมใช้จะเป็นระบบ Packaged Unit และระบบ Chilled Water System ซึ่งระบบ VRF หรือ VRV ถูกคิดค้นขึ้นมาเป็นนวัตกรรมใหม่แทน ยุคนั้นระบบปรับอากาศที่มีเทคโนโลยีในการปรับ "ตัวกลาง" ในการทำความเย็นไม่ว่าจะเป็น "ลมเย็น" "น้ำเย็น" หรือ "น้ำยา" นั้นจะถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและใหม่ที่สุดในช่วงนั้น

REFERENCE

forest1
Krungthai bank
mega bangna
karmart
TRC
Toyota-logo